“พระพุทธรูปยืน” (Standing Buddha Image) ซึ่งเป็นผลงานศิลปะในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ของช่างสิบหมู่โอภาส เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่งดงามของศิลปะอยุธยาตอนปลาย
โอภาสเป็นศิลปินที่มีฝีมือประณีต รู้จักการใช้สีและลวดลายเพื่อสร้างผลงานที่มีความ sống động และ “พระพุทธรูปยืน” ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขาได้อย่างชัดเจน
องค์ประกอบที่โดดเด่น
พระพุทธรูปยืนถูกสร้างขึ้นจากทองสัมฤทธิ์ ประดิษฐ์ในแบบโบราณที่เน้นความสง่างามและศักดิ์สิทธิ์ ท่าทางของพระพุทธองค์นั้นสงบนิ่ง มองลงมาด้วยสายตาอันเมตตา
- อาภรณ์
พระพุทธรูปสวมฉลองพระองค์อย่างวิจิตร มีลวดลายดอกไม้ และใบพลู ประดับด้วยอัญมณีหลากสีสัน
ลักษณะ | รายละเอียด |
---|---|
ฉลองพระองค์ | สลักด้วยลวดลายดอกบัวและรูปทรงเรขาคณิต |
อัญมณี | หินตาไกร , โกเมน, และแก้ว |
พัด | ทำจากทองคำเปลว |
- เส้นผม
พระเกศถูกจำลองอย่างละเอียด มีลอนผมที่ดูเป็นธรรมชาติ และปลายผมที่พลิ้วไหว
- ฐาน
ฐานของพระพุทธรูปถูกสร้างขึ้นจากหินอ่อนแกะสลัก ลวดลายประณีตประกอบด้วยดอกบัวและรูปสัตว์ในตำนาน เช่น มังกร, นกยูง และสิงห์
การใช้สีสัน
“พระพุทธรูปยืน”
โดดเด่นด้วยสีทองที่อร่ามตา ผสมผสานกับสีแดง, น้ำเงิน, และเขียวในฉลองพระองค์และอัญมณี
ความหมายเชิงสัญลักษณ์
“พระพุทธรูปยืน” ไม่ใช่เพียงแค่รูปปั้นสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง
-
ท่าทางของพระพุทธองค์
แสดงถึงความสงบและความรู้แจ้ง
-
ฉลองพระองค์
แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจ
-
ฐาน
สื่อถึงความมั่นคง
การอนุรักษ์
ปัจจุบัน “พระพุทธรูปยืน” ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอยุธยา
การอนุรักษ์ชิ้นงานศิลปะเก่าแก่เหล่านี้นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง
เพราะเป็นมรดกทางวัฒนธรรม
และเป็นตัวแทนของความงดงามของศิลปะไทย
บทสรุป
“พระพุทธรูปยืน” เป็นผลงานศิลปะที่แสดงให้เห็นถึงความชำนาญของช่างสิบหมู่โอภาส และความงดงามของศิลปะอยุธยาตอนปลาย
ลวดลายวิจิตร, สีสันสดใส, และความหมายเชิงสัญลักษณ์ ทำให้ “พระพุทธรูปยืน”
เป็นหนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรม
ที่ควรค่าแก่การศึกษาและอนุรักษ์ไว้